Tuesday, 21 September 2010

Must Read!! 3G Technology ในปัจจุบัน (ตอนจบ)


และแล้วก็เดินทางมาถึงตอนจบ...กับบทสรุปของ 3G ตามที่ทิ้งท้ายไว้ในตอนที่แล้ว จุดเด่นที่สุดของคำว่า 3G คงหนีไม่พ้นความเร็วในการเชื่อมต่อ การติดต่อ และส่งข้อมูลครับ เน้นการเชื่อมต่อแบบ wireless (ไร้สาย) ด้วยความเร็วสูง

นอกจากนี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพในส่งของการรับส่งข้อมูลจากเดิมให้เร็วขึ้น เน้นการติดต่ออย่างสมบูรณ์แบบ อย่างการ call conference, ประชุมทางไกล, การดาวน์โหลดภาพ เสียง clip Video เพลง ภาพยนตร์ หรือApplication ต่างๆ รวมถึงการติดต่อธนาคารทางโทรศัพท์ การโอนเงิน เช็คยอดเงิน ซื้อขายของ หาพิกัด ตรวจสอบเส้นทาง ซึ่งจะทำให้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้น

  • 3G ทำให้เราสามารถติดต่อกันได้อย่างรวดเร็วฉับไว ย่อโลกในแคบลง 
  • เพิ่มความสะดวกสบายให้กับการดำเนินชีวิต ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจหลักของเทคโนโลยี 
  • อีกจุดเด่นของ 3G คือความสมจริง เปรียบเหมือนเป็นการใส่ความรู้สึกข้าไป ไม่ใช่เป็นเพียงเครื่องมืออิเลกทรอนิคส์ เช่น ไฟล์เสียงสมจริง (True tone) การแสดงภาพแบบ 3D หรือการติดต่อเชื่อมโยงต่างๆแบบ interactive 
  • และหัวใจหลักอย่างการเป็นระบบ Always on ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อกับระบบอยู่ตลอดเวลา ทำให้เราไม่พลาดการติดต่ออีกต่อไป
  • หากมองถึงตัวเครื่องโทรศัพท์ โทรศัพท์ที่รองรับในส่วนนี้ก็จะรองรับในการทำอะไรได้หลายๆในเครื่องเดียว อย่างเช่น โทรศัพท์มือถือหลายๆรุ่นที่สามารถ ถ่ายภาพ ฟังเพลง Mp3 ดู Tv ผ่านเครือข่าย GPRS หรือ EDGE การจัดการข้อมูล (Organizer) การส่งผ่านข้อมูลในด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็น IrDa Bluetooth Wi-Fi 
  • ส่วนในด้านของระบบในเมืองไทย ที่เห้นว่าใกล้เคียงมาตรฐาน 3G ก็คงจะเป็น การเชื่อมต่อผ่าน EDGE ซึ่ง ด้วยความเร็ว 118 K
เรามาดูมาตรฐานของ 3G กันหน่อยดีกว่า
มาตรฐาน 3G อยู่ 3มาตรฐาน ได้แก่ WCDMA wideband CDMA (WCDMA), CDMA2000 และ TD-SCDMA ใช้การแบ่งเวลา

1. WCDMA พัฒนามาจาก GSM และ TDMA (Time Division Multiple Access) ซึ่งทำให้ขยายแถบช่องสัญญาณได้ มากและกว้างขึ้น ปัจจุบันแพร่หลายในอเมริกาซึ่งพัฒนาระบบ 2G ไปเป็น EDGE-Enhance Data Rate for GSM ซึ่งเป็นอีกก้าวที่นำไปสู่ 3G คาดว่าระบบ WCDMA นี่จะถูกใช้งานมากที่สุดซึ่งตั้งเป้าหมายไว้แล้วถึง 60 ประเทศเป็นอย่างน้อย

2. CDMA 2000 ปัจจุบันพัฒนาไปถึงระบบ 1x EV-DO เป็นเทคโนโลยีที่มีจุดเด่นทางด้านการส่งข้อมูลความเร็วสูงครอบคลุมพื้นที่กว้าง 1xEV-DO เป็นระบบเดียวกับ CDMA ที่ได้รับการยอมรับจาก สมาพันธ์โทรคมนาคมระหว่างประเทศ ( ITU ) ให้เป็นเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานการสื่อสารไร้สายยุค 3G ข้อดีของระบบนี้คือการใช้งานที่สะดวก ง่ายต่อการติดต่อและสามารถเชื่อมต่อได้หลายรูปแบบทั้ง โทรศัพท์มือถือ PDA Laptop PC โดยสามารถต่อแบบ ไร้สายได้

3. TD-SCDMA (Time Division-Synchronous Code Division Multiple Access) เป็นเครือข่าย CDMA อีกอย่างที่ถูกนำมาใช้เป็นระบบ 3G ที่ได้รับการรับรองโดย ITU ปัจจุบัน TD-SCDMA ถูกพัฒนาและเริ่มทดลองใช้งานแล้วในประเทศจีน

:: สรปครับ ::

G ย่อมาจาก Generation
1G - ระบบ Analog 2G - ระบบ Digital 3G - ระบบ Wireless
ก่อนที่จะเป็น 3G นั้น เทคโนโลยีได้มีพัฒนาเรื่อยมา ...

1 .ยุค 1G เป็นยุคแรกของการพัฒนาระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเซลลูล่าร์ การรับส่งสัญญาณใช้วิธีการผสมสัญญาณอะนาล็อกเข้าช่องสื่อสารโดยการใช้การแบ่งความถี่ออกมาเป็นช่องเล็กๆ

2.ยุค 2G เป็นยุคที่พัฒนาต่อมาโดยการเข้ารหัสสัญญาณเสียง โดยบีบอัดสัญญาณเสียงในรูปแบบดิจิตอล ให้มีขนาดจำนวนข้อมูลน้อยลง มีการติดต่อจากสถานีลูกหรือตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่กับสถานีเบสใช้วิธีการ 2 แบบคือ TDMA และ CDMA ในยุค นี้จึงเป็นการรับส่งสัญญาณโทรศัพท์แบบดิจิตอลหมดแล้ว


3.ยุค 3G เป็นยุคแห่งอนาคตอันใกล้ โดยสร้างระบบใหม่ให้รองรับระบบเก่า และเรียกว่า Universal Mobile Telecommunication Systems (UMTS) การเข้าถึงเครือข่ายแบบไร้สายมาสามรถกระทำได้ด้วยอุปกรณ์หลากหลาย เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ระบบยังคงใช้การเข้าช่องสัญญาณเป็นแบบ CDMA ซึ่งสามารถบรรจุช่องสัญญาณได้มากกว่าแต่ใช้แบบแถบกว้าง ระบบนี้จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า WCDMA มีแนวโน้มเชื่อมโยงกับระบบอินเตอร์เนตได้อย่างสมบูรณ์

:: ขอเพิ่มเติมก่อนจบ และคิดว่าคุณควรอ่านมัน ::

3G นั้น ... ทางฝั่งยุโรปเค้ามีใช้กันไปกันนานแล้ว รวมถึงประเทศญี่ปุ่นหรือเกาหลีนี่เค้าเป็น UMTS ไปนานแล้วเหมือนกัน .. และจะก้าวไปถึงไหนๆแล้วด้วย (ตามไม่ทัน) ส่วนประเทศไทย ก็ยังไปไม่ถึงไหนเลย ... แต่ได้ข่าวมาหลายทีแล้ว ว่าทาง AIS กำลังพัฒนา 3G อยู่ แต่จะเมื่อไหร่นั้น ก็คงต้องติดตามกันต่อไป

3G อาจจะไม่บูมแบบ 2G แต่จะกระโดดไป 4G เลย คือยุคของ IP Phone โดยผ่าน wi-max ที่ทำความเร็วได้ขั้นต่ำ 11Mbs (Max 150Mbs ในปัจจุบัน) ทำให้ส่งข้อมูลได้เร็วกว่า 3G มากๆ การโทรข้ามประเทศมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าเพราะเป็น IP วิ่งผ่าน Internet ที่มีอยู่ได้ทันที โดยใช้ VOIP ซึ่งยุค 4G นี้ operator จะลงทุนต่ำกว่าในยุคก่อนๆมาก และ 4G ก็มียักษ์จากวงการ network และ computer หนุนหลังอยู่ 3G จึงอาจตายไวกว่าที่คิด

~จบครับผม ~